การขี่จักรยาน
การขี่จักยานอยู่กับที่ได้รับความนิยมอย่างแพรหลาย
เนื่องจากสามารถออกกำลังกายได้ทุกสภาพอากาศ และสามารถปรับระดับความฝืด
หรือความต้านทานได้ตามสภาพของผู้ที่ออกกำลังกาย
การออกกำลังแต่ละครั้งควรใช้เวลาในการออกประมาณ 40 นาที
ในการฝึกช่วงแรก ควรจะมีผู้เชี่ยวชาญ คอยแนะนำวิธีการขี่จักรยานอย่างถูกต้อง
เครื่องที่ทันสมัยจะมีโปรแกรม เพื่อความบันเทิงเหมือนกับเราขี่ขึ้นเนินเขา
หรือผ่านทุ่งหญ้า นอกจากนั้นยังสามารถตรวจวัดขีพขจรของผู้ที่ขี่จักรยาน
สุขภาพ >> การออกกำลังกาย>>
เพื่อติดตามว่าชีพขจรเต้นตามเป้าหมายหรือยัง
โดยการปรับความเร็ว หรือความฝืด การออกกำลังโดยการขี่จักยาน
ก็เหมือนการออกกำลังกายชนิดอื่นๆที่ต้องมีการอบอุ่นร่างกายก่อน
และมีการยืดเส้นเอ็น
ใครที่ที่สามารถออกกำลังโดยการขี่จักรยานและใช้พลังงานเท่าใด
การออกกำลังกายโดยการขี่จักรยานสามารถกระทำได้ทุกอายุ
และทุกสภาพความแข็งแรง เป็นการออกกำลังที่ไม่ทำให้ข้อเข่าเสื่อมเพิ่มขึ้น
ปกติจะใช้พลังงานประมาณ 500 กิโลแคลรอรี่ต่อ 45 นาที
ข้อดีของการขี่จักรยาน
ทำให้หัวใจแข็งแรง
ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง
สามารถออกกำลังกายได้ทั้งปี ทุกสภาพอากาศ
สามารถออกกำลังกายได้โดยลำพังคนเดียว
การขี่จักรไม่ต้องใช้ทักษะ
ข้อเสียของการออกกำลังกายโดยการขี่จักรยาน
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างแพงเพราะต้องสมัครเป็นสมาชิก
หากคุณจะซื้อไว้ใช้เอง
ต้องเรียนรู้วิธีการขี่อย่างถูกต้อง
และลองขี่อย่างต่อเนื่องระยะหนึ่งจนแน่ใจว่าจะออกอย่างต่อเนื่อง
บางคนอาจจะเจ็บก้นเนื่องจากขนาดก้นและเบาะรองนั่งไม่สมดุล
ข้อแนะนำในการขี่จักยาน
ปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย
ก่อนจะขี่จักรยานต้องเรียนรู้อุปกรณ์และวิธีการขี่
ปรับเบาะ มือบังคับให้ได้ระดับเหมาะสม
ความสูงของเบาะนั่งต้องเหมาะสมคือเมื่อนั่งบนเบาะ
เท้าที่วางบนบันไดที่ต่ำเข่าจะงอเล็กน้อยโดยทำมุมประมาณ 5 องศา
หากตั้งเบาะต่ำไปอาจจะทำให้ปวดเข่าเมื่อขี่จักรยาน
ต้องตรวจข้อล็อกต่างๆว่าอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและแน่หนา
วิธีทดสอบอีกวิธีหนึ่งคือให้วางส้นเท่าบนบันไดขั้นต่ำสุก
เข่าจะเหยียดตรงพอดี
ความสูงของมือจับปรับให้พอดี
โดยปรับให้สูงแล้วค่อยเลื่อนต่ำลงมา ตำแหน่งที่เหมาะสมคือข้อศอกงอเล็กน้อย
ระยะห่างพอดี และจับสบายไม่ปวดหลัง การปรับนี้ผู้ขี่ต้องปรับให้พอดีกับตัวเอง
การเลือกรองเท้า
ไม่ควรใช้รองเท้าสำหรับวิ่งหรือรองเท้าสำหรับการเต้น aerobic เพราะพื้นรองเท้านุ่มเกินไป
พื้รรองเท้าสำหรับขี่จักยานควรจะแข็งพอสมควรเพื่อจะได้ขี่จักยานอย่างมีประสิทธิภาพ
การเตรียมอุปกรณ์อื่นที่จำเป็น
ผ้าเช็ดเหงื่อสำหรับเช็ดโดยเฉพาะมือจับเพราะอาจจะทำให้ลื่น
ดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนการออกกำลังกาย
ดื่มน้ำประมาณครึ่งลิตรระหว่างการออกกำลังกาย 40
นาที
ดื่มน้ำอีก 1 แก้วหลังการออกกำลังกาย
ก่อนออกกำลังกายให้อบอุ่นร่างกายโดยการขี่จักรยานแบบไม่มีความฝืด
5-10 นาทีหลังจากนั้นจึงเพิ่มความฝืดและเพิ่มความเร็วโดยที่ไม่เหนื่อยหรือไม่ปวดกล้ามเนื้อ
สำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจหรือความดันโลหิตสูงควรติดตามการเต้นของหัวใจ
สำหรับผู้ที่เริ่มขี่ควรจะขี่ด้วยความเร็วไม่มากและความฝืดไม่มาก
เมื่อร่างกายแข็งแรงจึงเพิ่มความฝืดและความเร็ว
หากมีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด เจ็บหน้าอก
ให้หยุดขี่ และบอกคนใกล้ชิดหรือผู้คุม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น