วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

ประวัติกองทัพไทย


กองทัพไทย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กองทัพไทย
Emblem of the Royal Thai Armed Forces HQ.svg
เครื่องหมายราชการของกองบัญชาการกองทัพไทย
ก่อตั้ง2395
เหล่าทัพRoyal Thai Army Flag.svg กองทัพบก
Royal Thai Navy Flag.svg กองทัพเรือ
Royal Thai Air Force Flag.svg กองทัพอากาศ
ผู้บังคับบัญชา
จอมทัพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
รัฐมนตรีกลาโหมพลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัต
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดพลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร
กำลังพล
อายุถึงขั้น
รับราชการ
21
ประชากร
ในวัยรับราชการ
ชาย 14,903,855  อายุ 21–49 (ประเมิน 2548),
หญิง 15,265,854  อายุ 21–49 (ประเมิน 2548)
ประชากร
ฉกรรจ์
ชาย 10,396,032 , อายุ 21–49 (ประเมิน 2548),
หญิง 11,487,690 , อายุ 21–49 (ประเมิน 2548)
ประชากรที่อายุถึงขั้น
รับราชการทุกปี
ชาย 526,276 (ประเมิน 2548),
หญิง 514,396 (ประเมิน 2548)
ยอดกำลังประจำการ305,860
ยอดกำลังสำรอง245,000
การเงิน
งบประมาณทางทหาร13,574.394 ล้านบาท (พ.ศ. 2554)[1]
ร้อยละต่อจีดีพี1.8% (ประเมิน 2548)
บทความที่เกี่ยวข้อง
การจัดชั้นยศยศทหารในกองทัพไทย
กองทัพไทย (อังกฤษRoyal Thai Armed Forces) ได้เกิดขึ้นและมีประวัติควบคู่กับการสร้างชาติไทยมายาวนาน มีภารกิจหลักในการป้องกันและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ เป็นรากฐานและหลักประกันค้ำจุนสถาบันชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ เป็นกำลังสำคัญในการปกป้องแผ่นดินไทยให้ดำรงความเป็นชาติเอกราชมาโดยตลอด

เนื้อหา

  [แสดง

[แก้]ประวัติ

วิวัฒนาการจนเป็นกองทัพไทยในปัจจุบันเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งทรงเล็งเห็นความจำเป็นและความสำคัญของกองทัพ จึงทรงปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินในด้านต่างๆ เน้นด้านการทหารเป็นสำคัญ ทรงสนับสนุนกิจการทหารด้วยการส่งพระราชโอรสหลายพระองค์ไปทรงศึกษาวิชาทหารในทวีปยุโรป ซึ่งทรงนำวิทยาการทหารสมัยใหม่มาปรับปรุงทางทหารของไทยจนเจริญทัดเทียมชาติตะวันตก นอกจากนี้ยังทรงตราพระราชบัญญัติเกณฑ์ทหาร ร.ศ. 124 (พ.ศ. 2448) ให้ชายอายุครบ 18 ปี รับราชการทหาร 2 ปีแล้วปลดเป็นกองหนุน ทั้งนี้ การยกเลิกระบบไพร่ก่อนหน้านี้ ได้ทำให้เกิดระบบทหารอาชีพขึ้นในประเทศไทย
ในรัชสมัยนี้ เริ่มมีนายทหารประจำการเป็นครั้งแรก จัดตั้งกองทัพบกและกองทัพเรือ ซึ่งแยกการบริหารออกจากกันโดยเด็ดขาด จัดแบ่งกำลังรบออกเป็น 10 กองพล[ต้องการอ้างอิง] จัดกำลังไปประจำในท้องถิ่นหัวเมืองสำคัญ จัดโรงเรียนคะเด็ตทหารมหาดเล็ก (ต่อมาคือโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า) และโรงเรียนนายเรือ เพื่อผลิตทหารประจำการในกองทัพ
ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 7 การจัดกองทัพได้ขยายเต็มรูปแบบ เริ่มกิจการการบินและก้วหน้าจนสามารถสร้างเครื่องบินเองได้ จวบจนถึงสมัยปัจจุบัน (ร.8-9) กองทัพไทยได้พัฒนาเพิ่มขึ้นอีกมาก ประกอบด้วยกำลังครบทั้งสามเหล่า คือ กองทัพบกกองทัพเรือ กองทัพอากาศ ได้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนมีศักยภาพสูง และมีบทบาทเป็นที่ยอมรับในประชาคมโลก สามารถส่งกำลังทหารไปช่วยมิตรประเทศในการสงครามต่าง ๆ หลายครั้ง อาทิเช่น สงครามโลกครั้งที่ 1 ในยุโรป สงครามเกาหลี สงครามเวียดนามการรักษาสันติภาพในติมอร์ตะวันออก เป็นต้น

ล่าสุด ทางเว็บไซต์ GlobalFirepower ได้จัดอันดับความแข็งแกร่งของกองทัพไทยอยู่อันดับที่ 19 ของโลก[2]

[แก้]หน่วยงานของกองทัพไทย


[แก้]ความขัดแย้ง

กองทัพไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันได้มีความขัดแย้งมาตลอด ทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค

[แก้]วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112

เกิดขึ้นเมื่อสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่สามยุคล่าอาณานิคมได้ขยายอิทธิพลเข้ามาในอินโดจีนและต้องการครอบครองดินแดนลาวซึ่งในตอนนั้นเป็นของสยามจึงเกิดความขัดแย้งระหว่างสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่สามกับสยาม และสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่สามได้บุกเข้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ทำให้ไทยต้องยกดินแดนลาวให้ฝรั่งเศส

[แก้]สงครามโลกครั้งที่ 1

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวท่านได้ตัดสินใจประกาศสงครามเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 1917 กับอำนาจกลางและเข้าร่วม Entente อำนาจในการต่อสู้ในแนวรบด้านตะวันตก ได้ส่งทหารของกองทัพสยามเดินทางมีทหารทั้งหมด 1,233 คน และยุทธโนปกรณ์ที่ทันสมัยและได้รับการฝึกอบรมได้รับคำสั่งจากจอมพลสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์และทางอากาศ สยามเป็นประเทศอิสระเพียงรายเดียวในเอเชียประเทศที่มีกองกำลังในยุโรปในช่วงสงครามโลกครั้งที่1 และได้สงผลให้มีการแก้ไขหรือการยกเลิกสนธิสัญญาที่ไม่เท่าเทียมกันกับ ประเทศสหรัฐอเมริกา,ฝรั่งเศสและจักรวรรดิอังกฤษ และกองทัพสยามยังได้รับเกียรติเดินขบวนในขบวนแห่งชัยชนะในปารีส
ทหารไทยที่เดินขบวนแห่งชัยชนะในกรุงปารีส

[แก้]กรณีพิพาทอินโดจีน

สงครามครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือน ตุลาคม 1940 เมื่อประเทศที่อยู่ภายใต้ลัทธิฟาสซิสต์กฎของจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ตัดสินใจที่จะบุกฝรั่งเศสภายใต้ระบอบการปกครองของวิชี (หลังจากนาซีครอบครองกรุงปารีส) เพื่อนำดินแดนที่ถูกฝรังเศษเอาไปกลับคืนมา

[แก้]สงครามโลกครั้งที่ 2

เกิดขึ้นเมื่อกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นต้องการผ่านดินแดนไทยเพื่อที่จะโจมตีบริติชอินเดียและแหลมมลายูและต้องการใช้กำลังทหารของไทยได้เกิดการปะทะขึ้นระหว่างทหารของจักรวรรดิญี่ปุ่นกับไทยและสิ้นสุดเมื่อชั่วโมงแรกในวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ.1941รัฐบาลไทยได้ประกาศสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตรและยอมให้กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นเคลื่อนทัพผ่านดินแดนไทยได้
สงครามโลกครั้งที่สองไทยได้ส่งกองทัพเข้าโจมตีพม่าและมาเลเซีย สงครามที่ได้เข้าร่วมได้แก่

[แก้]สงครามเกาหลี

เกิดขึ้นในช่วงที่ความขัดแย้งของสหประชาชาติในคาบสมุทรเกาหลี กองทัพไทยให้กรมทหารราบที่ 21 ประมาณ 1,294 คน

[แก้]สงครามเวียดนาม

ทหารไทยที่เข้ารบรบในเวียดนาม
เกิดขึ้นเมื่อมีความคิดที่ว่าจะรวมเวียดนามเป็นหนึ่งเดียวไม่ ไทยได้ส่งทหารไทยเข้ารบรบกับประเทศที่เป็นพันธมิตร สงครามจบลงด้วยชัยชนะของเวียดนามเหนือ และทหารไทยเสียชีวิต 1,351 นาย

[แก้]การปราบปรามคอมมิวนิสต์ (1976 - 1980)

เกิดเมื่อกลุ่มนักศึกษาและประชาชนภายใน บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งกำลังชุมนุมประท้วงเพื่อขับไล่ให้จอมพลถนอม กิตติขจรออกนอกประเทศ ในเหตุการณ์นี้ ตำรวจตระเวนชายแดนนำโดยค่ายนเรศวรจากหัวหิน, กลุ่มลูกเสือชาวบ้าน ตำรวจ และกลุ่มคนที่ตั้งโดยงบ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) คือ กลุ่มนวพล และ กลุ่มกระทิงแดง ได้ใช้กำลังอย่างรุนแรง ทำให้มีผู้ที่บาดเจ็บ เสียชีวิต และสูญหายเป็นจำนวนมาก

[แก้]สงครามบ้านร่มเกล้า

เกิดขึ้นเมื่อลาวได้ยกกำลังเข้ายึดพื้นที่บ้านร่มเกล้า ในเขตอำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก และเกิดปะทะกับกองกำลังทหารพราน 3405 ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2530 และยึดเนิน 1428 เป็นที่มั่น และสิ้นสุดลงเมื่อ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 หลังจากฝ่ายไทยได้ใช้กองทัพอากาศโจมตีเข้าไปในดินแดนลาว 30-40 กิโลเมตร และฝ่ายลาวโดยนายไกสอน พมวิหาร นายกรัฐมนตรี ได้เจรจาขอหยุดยิงเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 และเสนอให้ถอนกำลังของทั้งสองฝ่ายออกจากกันเป็นระยะ 3 กิโลเมตร

[แก้]ติมอร์ตะวันออก (1999-2002)

เกิดเมื่อมีวิกฤตในติมอร์ตะวันออก ไทยร่วมกับประเทศอื่น ๆ 28 ประเทศ ให้มีกองทัพระหว่างประเทศในติมอร์ตะวันออกหรือ INTERFET เริ่มเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 1999 ถึง 20 พฤษภาคม 2002

[แก้]สงครามอิรัก (2003-2004)

เกิดขึ้นเมื่อกองทัพสหรัฐบุกประเทศอิรัก และประเทศไทยได้ส่งกำลังสนับสนุนกองกำลัง 423 ในเดือนสิงหาคม 2003 กองกำลังส่วนใหญ่จากกองทัพบกไทยถูกโจมตีใน 2,003 บาลาระเบิดฆ่า 2 ทหารไทย และบาดเจ็บ 5 คนอื่น ๆ ภารกิจของไทยในอิรักได้รับการพิจารณาที่ประสบความสำเร็จและถอนกองกำลังออกในเดือนสิงหาคม 2004 ภารกิจนี้ถือเป็นเหตุผลหลักที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตัดสินใจที่จะกำหนดให้ประเทศไทยเป็นพันธมิตรนาโต้ที่ไม่ใช่รายใหญ่ในปี 2003

[แก้]ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ (2004 - ต่อเนื่อง)

เกิดขึ้นเมื่อเกิดเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่อสู้โดยเชื้อชาติมาเลย์และกลุ่มกบฏอิสลามในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จากยะลา ปัตตานีและจังหวัดนราธิวาส เหตุการณ์เริ่มรุนแรงในปี 2004 เมื่อการโจมตีของผู้ก่อการร้ายพลเรือนไทยเชื้อชาติก่อความไม่สงบเพิ่มขึ้น กองทัพไทยในการเปิดการต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อการร้ายโดยใช้อาวุธหนัก

[แก้]ความขัดแย้งไทยกัมพูชา (2008 - ต่อเนื่อง)

ดูบทความหลักที่ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา

[แก้]บทบาทในการเมืองไทย

ทหารไทยเคลื่อนผ่านร่างผู้ชุมนุมที่เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม (19 พฤษภาคม 2553)
กองทัพไทยเริ่มมีบทบาทกับวิกฤตการเมืองของประเทศในปัจจุบันมากขึ้น ผ่านการรัฐประหาร โดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549[3] นอกจากนี้ ยังมีข้อสงสัยว่า ผู้บัญชาการกองทัพไทย อยู่เบื้องหลังการจัดตั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2551[4] และปรากฏเป็นข่าวว่า รัฐบาลและกองทัพไทย ร่วมกันออกคำสั่ง ให้กำลังทหารใช้อาวุธสงคราม เข้าสลายการชุมนุมทางการเมือง ของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แดงทั้งแผ่นดิน ถึงสามครั้ง คือเมื่อวันที่ 13-14 เมษายน พ.ศ. 2552[5]10 เมษายน[6] และ 13-19 พฤษภาคมพ.ศ. 2553[7] เป็นผลให้มีผู้ชุมนุมและประชาชน ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เสียชีวิตเกือบ 100 คน บาดเจ็บกว่า 2,000 คน[8] และยังมีผู้สูญหายอีกไม่ต่ำกว่า 50 คน[9] โดยมีเจ้าหน้าที่บางนายรับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์การชุมนุมด้วยเช่นกัน[10]

[แก้]ดูเพิ่ม

[แก้]อ้างอิง

  1. ^ พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554ราชกิจานุเบกษา เล่ม 127 ตอน 60ก วันที่ 28 กันยายน 2553
  2. ^ GlobalFirepower.com (GFP). สืบค้น 14-9-2554.
  3. ^ Thai PM deposed in military coup จากเว็บไซต์ บีบีซีนิวส์, 20 กันยายน พ.ศ. 2549
  4. ^ Thai army to 'help voters love' the government จากเว็บไซต์ เดอะเทเลกราฟ, 18 ธันวาคม พ.ศ. 2551
  5. ^ Army pressure ends Thai protest จากเว็บไซต์ บีบีซีนิวส์, 14 เมษายน พ.ศ. 2552
  6. ^ killed-thai-red-shirt-protesters/story-e6frg6so-1225852976016 Bullets killed Thai Red-Shirt protesters จากเว็บไซต์ ดิออสเตรเลียน, 13 เมษายน พ.ศ. 2553
  7. ^ Deadly clashes as police besiege Bangkok protesters จากเว็บไซต์ บีบีซีนิวส์, 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
  8. ^ รายงานเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. จากเว็บไซต์ ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร
  9. ^ ญาติแจ้งเสื้อแดงหายช่วงการชุมนุม25ราย จากเว็บไซต์ เดลินิวส์ออนไลน์, 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
  10. ^ รายงานเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. จากเว็บไซต์ ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น